สารบัญ
10 ที่เที่ยว สิงห์บุรี ยอดนิยม 2024
1. ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน (Ban Rachan Retro Thai Market)
- ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ตั้งอยู่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน
- ตลาดถูกจัดขึ้นบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในวัด มีบรรยากาศที่ร่มรื่นน่าเที่ยวชม
- มีการจัดแต่งซุ้มเพื่อจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้าน
- ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า ซึ่งพาให้บรรยากาศคล้ายกับตลาดยุคโบราณ
- มีการแสดงต่างๆ เช่น การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงเพลงฉ่อย การแสดงวีรกรรมชาวบ้านบางระจันจากเด็กๆ ในชุมชน
- นักท่องเที่ยวสามารถแต่งกายด้วยชุดไทยย้อนยุคมาเที่ยวกันได้
- ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.
- มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง สามารถรองรับรถได้ประมาณ 500 คัน
2. วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร (Wat Phra Non Chakkasi Worawihan)
- เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ตั้งอยู่ในตำบลจักรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
- ภายในวัดเป็นสถานที่ประดิษฐานพระนอนจักรสีห์ พระพุทธรูปไสยาสน์
- พระนอนขนาดใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย
- เป็นพระพุทธรูปสุโขทัยที่มีความอ่อนช้อยงดงามมาก พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ พระเศียรหันไปทางทิศตะวันออก
- ภายในพระวิหารยังมีพระกาฬ พระพุทธรูปศิลาลงรักปิดทอง และพระแก้ว พระหล่อนั่งขัดสมาธิเพชร
- บริเวณหน้าวัดยังเป็นที่ตั้งของพุทธมณฑลจังหวัดสิงห์บุรี
- การเดินทาง วัดอยู่ห่างจากอำเภอเมืองไปตามเส้นทางสายสิงห์บุรี-สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 3032) ประมาณ 4 กิโลเมตร
- เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
3. วัดอัมพวัน สิงห์บุรี (Wat Amphawan)
- วัดอัมพวัน ถือเป็นวัดอันดับต้นๆ ที่ประชาชนนิยมเดินทางไปปฏิบัติธรรม
- ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ในอำเภอพรหมบุรี
- มีต้นไม้ประมาณ 300 ต้น เป็นวัดที่สวย และมีความสงบมาก
- เหมาะแก่การมาเรียนรู้การปฏิบัติธรรม และมากราบสรีระสังขารพระเกจิดัง หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม
- นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมพระเจดีย์ธรรมสิงหบุราจริยานุสรณ์ ที่สร้างถวายแด่หลวงพ่อจรัญ หลังท่านละสังขาร
- วัดอัมพวัน เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 - 17.00 น.
4. วัดพิกุลทอง หลวงพ่อแพ เขมังกโร (Wat Phikun Thong)
- วัดพิกุลทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ หนึ่งในสถานที่สำคัญของสิงห์บุรี
- ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อยฝั่งตะวันออก ห่างจากตัวเมืองสิงห์บุรีประมาณ 16 กิโลเมตร
- เป็นวัดขนาดใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของสิงห์บุรี
- อีกทั้งยังเป็นวัดจำพรรษาของหลวงพ่อแพ (พระเทพสิงหบุราจารย์) พระเกจิดัง
- ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อแพ จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติและเครื่องอัฐบริขารของหลวงพ่อแพ
- อีกด้านหนึ่งของวัดมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระพุทธสุวรรณมงคลมหามุนี หรือหลวงพ่อใหญ่
- หลวงพ่อใหญ่ มีขนาดหน้าตักกว้าง 11 วา 2 ศอก 7 นิ้ว และสูง 21 วา 1 คืบ 3 นิ้ว
- วัดพิกุลทอง เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น.
5. วัดโพธิ์เก้าต้น ค่ายบางระจัน สิงห์บุรี (Wat Pho Kao Ton)
- วัดโพธิ์เก้าต้น ชาวบ้านนิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "วัดไม้แดง" ตั้งอยู่ที่ตำบลบางระจัน
- เป็นสถานที่ที่วีรชนชาวบ้านบางระจันใช้เป็นที่ตั้งมั่นในการต่อต้านข้าศึกที่ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา
- ภายในบริเวณวัดมีต้นไม้แดงหลายต้น เป็นไม้เนื้อแข็ง
- บริเวณวัดมีวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ เป็นวิหารทรงจัตุรมุข
- ท่านเป็นผู้ที่ชาวบ้านบางระจันเคารพนับถือและยึดถือเป็นกำลังใจในการต่อสู้ข้าศึก
- วัดแห่งนี้เป็นบริเวณที่พระอาจารย์ธรรมโชติแห่งวัดเขาขึ้น เลือกเป็นทำเลที่ตั้งค่าย
- ปัจจุบันได้มีการสร้างค่ายจำลองขึ้นบริเวณด้านหน้าของวัด เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจแก่ผู้คนที่มาท่องเที่ยววัดแห่งนี้
6. วัดไทร (Wat Sai)
- วัดไทร หรือชื่อเดิมว่า วัดทะยาน ตั้งอยู่ที่อำเภออินทร์บุรี อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา
- ความพิเศษของวัดแห่งนี้คือ โบสถ์ที่เหลือแต่กำแพง มีแค่รากของต้นไทรยึดกับกำแพงโบสถ์เอาไว้เท่านั้น
- ส่วนหลังคาของโบสถ์ จะได้รับความร่มเงาจากต้นไทร เพราะหลังคาและศาลาของวัดได้พังลงแล้ว
- ภายในเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธานของหลวงพ่อขาว หรือ หลวงพ่อทะยาน
- วัดไทร เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
7. วัดพระปรางค์มุนี สิงห์บุรี (Wat Phra Prang Muni)
- วัดพระปรางค์มุนี วัดเก่าแก่ที่คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายแห่งนี้
- เป็นที่ประดิษฐานของพระภูเขาทอง เป็นพระปรางค์องค์ใหญ่ สีทองอร่ามตา
- ภายในวัดมีวิหารหลวงพ่อเย็น พระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ หลวงพ่อขาว และหลวงพ่อนาก
- มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และต้นนารีผลจำลอง อยู่ใกล้กับศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง
- ด้านหลังวิหารยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งบริเวณโคนต้นมีพระผุด
- พร้อมชื่นชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในโบสถ์ ที่วาดเล่าเรื่องเกี่ยวกับนรก สวรรค์ พุทธประวัติ และพุทธชาดก
- วัดพระปรางค์มุนี เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
8. คูค่ายพม่า (Burmese Camp)
- คูค่ายพม่า เป็นแหล่งชุมชนโบราณที่มีลักษณะเป็นเนินดินแนวยาว
- มีรูปทรงคล้ายตัว L ยามประมาณ 5 - 15 เมตร กว้างประมาณ 3 เมตร
- ตั้งอยู่ในบริเวณหลังวัดคู ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี
- ด้านหน้าค่ายจะเป็นกำแพงค่าย ซึ่งตรงบริเวณทางเข้าจะมีศาลารู้ปั้นขององค์สมเด็จพระนเรศวรทรงยืนถือดาบตั้งอยู่
- คูค่ายพม่า เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 - 17.00 น.
9. วัดม่วงชุม (Wat Muang Chum)
- วัดม่วงชุม เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ ที่มีอายุมากกว่า 400 ปี
- ตั้งอยู่ในตำบลไม้ดัด อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี
- วัดแห่งนี้ได้มีการขุดพบเศียรพระหินทรายเป็นจำนวนมาก
- สิ่งที่น่าสนใจคือ หลวงพ่อดำ ที่ประดิษฐานอยู่ด้านหลังของวัดม่วงชุม
- อีกทั้งยังถือได้ว่าเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในสิงห์บุรี
- วัดม่วงชุม เปิดทำการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
10. บ้านพักอุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ (Mae La Maharacha Nuson Park)
- บ้านพักอุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ หรือ อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลทับยา
- มีพื้นที่อยู่ในเขตอำเภออินทร์บุรี และอำเภอบางระจัน ห่างจากอำเภอเมือง
- ถ้ามาที่นี่ต้องหาโอกาสชมและทาน "ปลาช่อนแม่ลา" ของดีประจำสิงห์บุรี
- ส่วนลำน้ำแม่ลา เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดสิงห์บุรี ที่ไหลผ่านพื้นที่รวม 3 อำเภอ
- อุทยานแม่ลามหาราชานุสรณ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวสิงห์บุรี
- มีทิวทัศน์สวยงาม ให้บรรยากาศติดริมลำน้ำ เงียบสงบ ร่มรื่น และมีอากาศที่เย็นสบาย
- ทางอุทยานฯ มีบริการบ้านพักทรงไทยไว้รองรับนักท่องเที่ยว จำนวน 4 ห้อง ราคาคืนละ 450 บาท
- เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.30 น.